บทความ
หลักการทำงานของ evaporator แบบต่างๆ
Evaporator เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในกระบวนการการเพิ่มความร้อนและน้ำ จนน้ำมีการระเหยหรือเปลี่ยนแปลงจากสถานะเหลวเป็นสถานะก๊าซ โดยใช้พลังงานความร้อนเป็นตัวขับ มีหลายแบบของ evaporator ตามวัตถุประสงค์และความต้องการในการใช้งาน หลักการทำงานของ evaporator แบบต่างๆ มีดังนี้:
- Falling Film Evaporator:
1.1 ใช้สำหรับการควบคุมการเปลี่ยนแปลงของสารละลาย
1.2 สารละลายจะถูกป้อนเข้าไปที่ช่วงบนของ evaporator และจะไหลลงมาบนแผ่นเครื่องทำความร้อนในรูปของฟิล์มเล็กๆ
1.3 ความร้อนจากแผ่นเครื่องทำความร้อนจะทำให้สารละลายระเหย - Rising Film Evaporator (Long Tube Vertical Evaporator):
2.1 ใช้สำหรับสารละลายที่มีความข้น และต้องการการกัดกร่อนต่ำ
2.2 สารละลายจะถูกป้อนเข้าไปที่ช่วงล่าง และเมื่อได้รับความร้อนจากแผ่นเครื่องทำความร้อน จะมีการเปลี่ยนแปลงจากสถานะเหลวเป็นก๊าซทำให้เกิดการไหลขึ้นมา - Multiple Effect Evaporator:
3.1 ประหยัดพลังงานด้วยการนำความร้อนที่ได้จาก evaporator ระดับแรกไปใช้ใน evaporator ระดับถัดไป
3.2 สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายทางพลังงานได้ - Flash Evaporator:
4.1 ใช้งานสำหรับการขยายสารทำความเย็นที่ใช้ในระบบน้ำแข็ง
4.2 สารละลายที่มีความดันสูง จะถูกปล่อยเข้าไปในห้องที่มีความดันต่ำ ทำให้สารละลายระเหยทันที - Agitated (or Mechanical) Thin Film Evaporator:
5.1 มีการใช้ข้อมือหรือแกนกลางตรงที่หมุน เพื่อกระจายสารละลายในรูปแบบของฟิล์มบาง
5.2 มักจะใช้สำหรับสารละลายที่มีความข้น หรือมีความแปรปรวน
หลักการทำงานของแต่ละแบบของ evaporator จะต่างกันตามรูปแบบและวัตถุประสงค์ในการใช้งาน evaporator ที่เหมาะสมตามความต้องการ
การทำความสะอาดและการบำรุงรักษา evaporator
การทำความสะอาดและการบำรุงรักษา evaporator เป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อให้ evaporator ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งาน ในการป้องกันปัญหา หรือความเสียหายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ต่อไปนี้คือขั้นตอนการทำความสะอาดและการบำรุงรักษา:
- ตรวจสอบความสกปรก: ควรตรวจสอบตำแหน่งที่มีการสะสมของสิ่งสกปรก เช่น ฝุ่น สสารต่างๆ บนแผ่นเครื่องทำความร้อน หรือบริเวณปากกาป้อนเป็นประจำ
- การทำความสะอาดแผ่นเครื่องทำความร้อน:
2.1 ใช้น้ำยาทำความสะอาดพิเศษสำหรับ evaporator หรือ น้ำยาทำความสะอาดทั่วไป ที่ไม่กัดกร่อนต่อวัสดุ
2.2 ปั่นแผ่นเครื่องทำความร้อนด้วยน้ำ ในกรณีที่มีการสะสมของสิ่งสกปรกในรูปแบบของคราบ - การทำความสะอาดบริเวณท่อ: ใช้วิธีการล้างด้วยน้ำ หรือน้ำยาทำความสะอาด เพื่อลดการสะสมของสารตะกอนในท่อ
- ตรวจสอบและเปลี่ยนฮีตเตอร์ (ถ้ามี): ฮีตเตอร์ที่มีการสึกหรอหรือเสียหาย สามารถทำให้ evaporator ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ
- ตรวจสอบซีลและกาวเชื่อม: เพื่อป้องกันการรั่วซึม หรือ หลุด
- ตรวจสอบระบบไฟฟ้าและควบคุม: เพื่อให้แน่ใจว่าระบบทำงานได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
- ตรวจสอบและเปลี่ยนท่อน้ำยาทำความเย็น: ในกรณีที่ใช้ในระบบทำความเย็น
- ตรวจสอบระบบน้ำยาทำความเย็น: ตรวจสอบความดัน และการรั่วซึมของน้ำยา
- ตรวจสอบการทำงานของเครื่องยนต์: ในกรณีที่ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์
การทำความสะอาดและการบำรุงรักษา evaporator ควรทำเป็นประจำ โดยควรมีกำหนดการในการตรวจสอบ หากมีการเปลี่ยนแปลงหรือปัญหาใดๆ ควรดำเนินการแก้ไขให้ทันท่วงที เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
วิธีการประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้งาน evaporator
การประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้งาน evaporator สามารถทำได้ผ่านหลายๆ วิธี ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของ evaporator และการใช้งานที่เฉพาะเจาะจงของแต่ละระบบ ด้านล่างนี้เป็นวิธีการประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้งาน evaporator:
- การใช้ Multiple Effect Evaporator (MEV): โดยการนำความร้อนที่ได้จาก evaporator ระดับแรกไปใช้ใน evaporator ระดับถัดไป สามารถลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการใช้พลังงานได้
- การปรับระดับและปรับปรุงความร้อน: ปรับปรุงระบบควบคุมความร้อน เพื่อให้สามารถแบ่งปันความร้อนได้ในรูปแบบที่เหมาะสมตามความต้องการ
- การลดการสูญเสียจากการรั่วซึม: ตรวจสอบและซ่อมแซมอุปกรณ์ เพื่อป้องกันการรั่วซึมของสารละลาย หรือน้ำยาทำความเย็น
- การบำรุงรักษาเป็นประจำ: การตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องมือเป็นประจำ สามารถป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมในระยะยาว
- การใช้ฮีตเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ: การเลือกใช้ฮีตเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถลดค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงาน
- การควบคุมการใช้พลังงาน: ใช้ระบบควบคุมที่ทันสมัย เพื่อป้องกันการใช้พลังงานเกินจำเป็น
- การปรับปรุงการออกแบบ: การปรับปรุงการออกแบบของ evaporator ให้เหมาะสมกับการใช้งานเฉพาะเจาะจงของระบบ
- การฝึกอบรมผู้ใช้งาน: การให้ความรู้และฝึกฝนให้กับผู้ใช้งานเกี่ยวกับการใช้งาน และบำรุงรักษา evaporator สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้
- การตรวจสอบประสิทธิภาพ: ตรวจสอบและประเมินประสิทธิภาพของ evaporator อย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับปรุงและลดค่าใช้จ่ายในการใช้งาน
วิธีการประยุกต์ใช้วิธีเหล่านี้ในการใช้งาน evaporator จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทคนิคในการควบคุม evaporator สำหรับประสิทธิภาพสูงสุด
การควบคุม evaporator ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถทำได้ผ่านเทคนิคและวิธีการต่างๆ ดังนี้:
- ควบคุมการไหลของน้ำยาทำความเย็น: ใช้วาล์วควบคุมการไหลของน้ำยา เพื่อให้มีปริมาณน้ำยาที่เหมาะสมผ่าน evaporator นี้จะช่วยในการควบคุมการแลกเปลี่ยนความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ
- ควบคุมความดัน: รักษาความดันภายใน evaporator ในระดับที่เหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหา เช่น น้ำแข็งตกค้าง หรือการควบคุมการเดือดของน้ำยา
- ระบบการควบคุมอัตโนมัติ: ใช้ระบบ PLC หรือระบบควบคุมอัตโนมัติ เพื่อตรวจสอบและปรับค่าการทำงานของ evaporator แบบอัตโนมัติ
- การติดตั้งเซนเซอร์: ติดตั้งเซนเซอร์สำหรับการวัดอุณหภูมิ ความดัน และความชื้น ที่จุดต่างๆ ของ evaporator เพื่อตรวจสอบ และควบคุมประสิทธิภาพการทำงาน
- การควบคุมการแลกเปลี่ยนความร้อน: ควบคุมความเร็วของพัดลม หรือปั๊มเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ในการแลกเปลี่ยนความร้อน
- การทำความสะอาด: ทำความสะอาดแผ่นเครื่องทำความร้อน และพื้นที่ภายใน evaporator เป็นประจำ เพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรก ที่จะลดประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนความร้อน
- การฝึกอบรมผู้ใช้งาน: ให้ความรู้และฝึกฝนในการควบคุม และบำรุงรักษา evaporator ให้กับผู้ใช้งานที่รับผิดชอบ
- การตรวจสอบและประเมินประสิทธิภาพ: ประเมินประสิทธิภาพการทำงานของ evaporator อย่างสม่ำเสมอ และปรับปรุงหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
- ควบคุมความชื้น: ในบางกรณี การควบคุมความชื้นภายใน evaporator สามารถช่วยป้องกันปัญหาเช่น การเกิดน้ำแข็ง หรือการลดประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนความร้อน
- การป้องกันการสะสมของอากาศ: ใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อป้องกันการสะสมของอากาศใน evaporator ซึ่งอาจทำให้การแลกเปลี่ยนความร้อนไม่เต็มที่
ด้วยการประยุกต์ใช้เทคนิคเหล่านี้ จะสามารถควบคุม evaporator ให้ทำงานด้วยประสิทธิภาพสูงสุด และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานได้